สถานีอนามัยบ้านสันเนิน http://sun999.siam2web.com/

 

นอนไม่หลับทำไงดี

วันเสาร์ ที่ 17 เมษายน 2553 เวลา 0:00 น

Bookmark and Share
 

 

ความผิดปกติของการนอนที่พบบ่อยที่สุดคือ “อาการนอนไม่หลับ” ซึ่งพบได้มากถึง 1 ใน 3 ของประชากรที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนไม่หลับ และยังพบในผู้หญิงได้มากกว่าในผู้ชายประมาณ 2 ต่อ 1 นอกจากนี้ยังพบได้มากขึ้นตามอายุ ใครที่เคยนอนไม่หลับ คงทราบถึงความทุกข์ทรมานของภาวะดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ถ้านาน ๆ เป็นครั้งก็ไม่น่าเป็นกังวล แต่หากเป็นบ่อย ๆ ก็แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น
       
ผลเสียของการนอนไม่หลับ คนที่นอนไม่หลับจะทำให้เกิดความเจ็บป่วย ไม่สบายทางร่างกายมากกว่าปกติ โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ หอบหืด ความดันโลหิตสูง จะพบได้มากขึ้น อาจต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยกว่าปกติ มีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจ ตึงเครียด กังวล อารมณ์เศร้ามากกว่าเดิม มีแนวคิดที่จะฆ่าตัวตายสูง นอกจากนี้แล้ว การนอนไม่หลับยังส่งผลต่อการงาน ความสามารถทั่วไป ขาดงานบ่อยขึ้น และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และอาจหันเข้าหาสุรา ยาเสพติดได้
       
ชนิดของการนอนไม่หลับ อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ คนที่หลับยาก คนกลุ่มนี้อาจใช้เวลานานเป็นชั่วโมงจึงสามารถนอนหลับได้ คนที่หลับไม่ทน คนกลุ่มนี้พอหัวค่ำอาจหลับได้ แต่ไม่นานก็จะตื่น บางคนอาจไม่หลับอีกตลอดทั้งคืน และ คนที่หลับ ๆ ตื่น ๆ คนกลุ่มนี้อาจจะมีความรู้สึกคล้ายไม่ได้หลับเลยทั้งคืน เพียงแต่เคลิ้มไปเป็นพักพักเท่านั้น..คุณล่ะเป็นคนในกลุ่มใดหรือไม่? ถ้าเป็นล่ะก็ มาดูกันว่า สาเหตุการเกิดเป็นอย่างไรกันแน่
       
สาเหตุที่พบบ่อย มักเกิดจากความวิตกกังวลในเรื่องต่าง ๆ เช่น อาการเจ็บปวด ไม่สบายกายจากโรคที่ประสบพบเจอ มีสิ่งรบกวนจากสภาพแวดล้อม เช่น แสงสว่าง เสียงดัง กลิ่นเหม็น เป็นต้น นอกจากนี้ ความไม่คุ้นเคยในสถานที่ อาชีพที่ทำให้เกิดนิสัยการนอนไม่แน่นอนอย่าง อาชีพพยาบาล ตำรวจ ยาม ซึ่งต้องสลับเวรไปมา สาเหตุจากความแปรปรวนของจิตใจที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ จากการติดยา หรือสิ่งเสพติดบางประเภท เช่น สุรา ยาบ้า จากยาแก้โรคบางอย่างที่ผู้นั้นต้องกินอยู่ประจำ เช่น ยาแก้ปวดบางประเภท ยาลดความดันโลหิต เป็นต้น และการถูกฝึกเรื่องการนอนอย่างไม่เหมาะสม ก็เป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับต่าง ๆ ได้..แล้วคุณล่ะ มีอาการแบบใด?
       
หากถามถึงการรักษาแล้วล่ะก็..มีทั้งการรักษาด้วยยาและรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา สำหรับวิธีการรักษาแบบไม่ใช้ยา อาจทำได้หลายวิธี   ดังนี้
       
1. จัดเวลานอนให้สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน
       
2. ควรเลิกสูบบุหรี่และเลิกการดื่มแอลกอฮอล์จัด
       
3. บางครั้งการเปลี่ยนฟูกที่นอนก็เป็นสิ่งจำเป็น เปลี่ยนจากอย่างแข็ง  เป็นอย่างอ่อน หรือสลับกัน ควรเอาใจใส่ผ้าคลุมเตียง ไม่ให้ร้อนหรือเย็นมากเกินไป รวมทั้งเสื้อผ้าที่ใส่นอน ควรนุ่มสบาย อุณหภูมิห้องควรอยู่ในระดับ พอดี
       
4. การเปลี่ยนท่านอน หากเคยนอนในท่าที่ไม่สบาย
       
5. อาหารว่างที่ไม่หนักเกินไป อาจช่วยในการนอนหลับ เช่น น้ำส้ม นมอุ่น น้ำผลไม้อื่น ๆ
       
6. มื้อเย็นควรงดน้ำชา กาแฟ รวมทั้งก่อนนอน
       
7. การอ่านหนังสือบนเตียงนอนอาจเบนความสนใจจากความวิตกกังวล ควรเลือกรายการโทรทัศน์ที่ไม่ตื่นเต้นมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ห้องนอนและเตียงไม่ควรใช้สำหรับเป็นที่รับประทานอาหารหรือของว่างดูโทรทัศน์ หรือทำธุรกิจต่าง ๆ
   
8. ไม่ควรให้มีเสียงหรือแสงรบกวนจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการนอนหลับเป็นแบบตื่นตัวมากเกินไป อาจต้องนอนแยกกับคนที่นอนกรนเสียงดัง
   
9. การออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยให้หลับดีขึ้น แนะนำให้เดินเร็วตอนเย็น และให้อาบน้ำอุ่น การผ่อนคลายความตึงเครียดทางเพศอาจช่วยได้
   
10. พยายามนอนให้มากตามที่ร่างกายต้องการจะได้รู้สึกสดชื่น
   
11. หลีกเลี่ยงความพยายามอย่างจริงจังที่จะทำให้หลับ ควรมุ่งความสนใจไปที่กิจกรรมอื่น ๆ อีกประการหนึ่งการกลัวนอนไม่หลับยิ่งทำให้ไม่หลับมากขึ้น ยิ่งกลัวยิ่งไม่หลับ กลายเป็นวงจรติดต่อกันไป
   
12. การฝึกสมาธิ เช่น การกำหนดลมหายใจเข้าออก การสะกด  จิตตนเอง การฝึกใช้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย อาจทำให้การนอนหลับดีขึ้น ถ้าปฏิบัติตามวิธีการต่าง ๆ แล้วยังนอนไม่หลับก็สมควรปรึกษาแพทย์ หรือจิตแพทย์เพื่อแก้ไขต่อไป
   
สำหรับการรักษาด้วยยา ในที่นี้จะหมายถึงยานอนหลับ สำหรับวิธีการรับประทานจะไม่ขอกล่าว แต่จะอธิบายถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น มีอาการง่วงซึม ลืมเหตุการณ์หลังจากใช้ยาในระยะเวลาสั้น ๆ ช่วงหนึ่งมีอาการดื้อยาคือต้องใช้ขนาดเพิ่มขึ้นจึงจะนอนหลับได้ หากใช้ยาขนาดสูงและเป็นเวลานาน ๆ อาจมีการติดยาได้ จึงควรหยุดยาเมื่อเริ่มรู้สึกว่าต้องการยาเพิ่มขึ้น สตรีมีครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรกไม่ควรกินยานอนหลับ เพราะจะมีผลต่อทารกในครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตรควรงดการให้นมบุตรในช่วงที่กินยานอนหลับ ควรงดดื่มสุรา
       
ไม่ว่าการรักษาด้วยวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการนอนหลายประการที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หรือการรักษาด้วยยา สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การตรวจวินิจฉัยและขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผู้ที่สงสัยว่าตนเองมีอาการเข้าข่ายที่อาจบ่งบอกว่า “นอนไม่หลับ” ให้มาพบแพทย์ และไม่ควรปล่อยให้อาการเลยเถิดไป
           
* ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ * คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอเชิญประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1 N1 2009 เพียงนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงความประสงค์ได้ที่ ชั้น 1 อาคารศูนย์อุบัติเหตุและเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 19-30 เมษายน 2553 ในเวลาราชการ ด่วน..วัคซีนมีจำนวนจำกัด ผู้ที่มีความประสงค์ควรศึกษาข้อมูลการฉีดวัคซีนก่อนตัดสินใจ.

ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

 

 


Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 40,431 Today: 4 PageView/Month: 55

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...